วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

แบตมือถือ อันตรายใกล้ ๆ ตัว


ก่อนหน้านี้คาดว่าหลาย ๆ คนน่าจะได้ยินข่าวเรื่องการระเบิดของโทรศัพท์มือถือกันมาบ้างแล้ว ซึ่งข่าวนี้ก็ทำเอาบรรดาขาแชทช่างคุยทั้งหลายหวั่น ๆ ไปกันพักใหญ่เลยทีเดียว

ซึ่งตัวการในเหตุคราวนี้คงหนีไม่พ้น "แบตเตอรี่" ในมือถือนั่นเอง เพราะฉะนั้นเรามาทำความรู้จักกับ "แบตเตอรี่" ที่ว่านี้หน่อยดีมั้ย


แบตเตอรี่มือถือที่ใช้ทุกวันนี้ มีหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น นิกเกิล แคดเมียม (NI-CD) นิกเกิล ไฮดราย (NI-MH) ลิเทียม โพลิเมอร์ (LI-POL) ลีด เอซิด (Lead Acid) และ "ลิเธียม - ไอออน" ซึ่งเป็นชนิดที่ใช้กันแพร่หลายมากที่สุด และมีโอกาสระเบิดสูงสุดเช่นกัน


ทั้งนี้แบตเตอรี่ลิเธียม - ไออนถูกประดิษฐ์ขึ้นมาแทนที่นิกเกิล ไฮดราย นั้นมีคุณสมบัติพิเศษ คือ น้ำหนักเบาและสะสมพลังงานได้หนาแน่นกว่าแบตเตอรี่ชนิดอื่น ๆ แต่เนื่องจากวัตถุดิบในการผลิตลิเธียม - ไอออนมีส่วนผสมของ"โคบอลต์ออกไซด์" ทำให้เมื่อตัวแบตเตอรี่โดนความร้อนสูงในระดับหนึ่งจะเกิดปฏิกิริยาเร่งความร้อนเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ ส่งผลให้แบตเตอรี่ไหม้ หรือ ระเบิดในที่สุด


แต่ก็ไม่ใช่ว่าสาเหตุที่มือถือระเบิดจะแบตเตอรี่เสียทั้งหมด เพราะบางครั้งก็มาจากความบกพร่องของอุปกรณ์ ชิ้นส่วน รวมทั้งระบบการทำงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การที่ชิ้นส่วนภายในเครื่องมือถือเกิด ไฟฟ้าลัดวงจร หรือ ชิ้นส่วนบางตัวในมือถือบกพร่องมาแล้วตั้งแต่ผลิตออกจากโรงงาน และอาจจะมาจากข้อบกพร่องของระบบชาร์จไฟในมือถือได้เช่นกัน


นอกจากนี้การชาร์จแบตเตอรี่ให้ถูกวิธีก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะสามารถป้องกันมือถือระเบิดได้ โดยขั้นตอนการชาร์จแบตเตอรี่นั้น ไม่ควรชาร์จนานเกิน 24 ชั่วโมง เพราะจะมีผลให้อุณหภูมิของแบตเตอรี่มีความร้อนสูงขึ้น แม้วงจรของแบต และเครื่องโทรศัพท์จะมีการสั่งให้หยุดชาร์จแล้วก็ตาม


หากแบตเตอรี่ยังเหลืออยู่อีกเยอะก็ไม่ควรชาร์ตใหม่ ควรรอให้แบตหมดเสียก่อนจะดีกว่า และที่สำคัญก็คือแบตเตอรี่ของมือถือแต่ละยี่ห้อนั้นอาจจะผลิตออกมาเหมือน ๆ กัน แต่ก็อาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกัน ดังนั้นต้องอ่านและปฏิบัติตามคู่มือดีที่สุด

ซึ่งสิ่งเหล่านี้นั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็มองข้ามไปไม่ได้เลยนะคะ เพราะอาจจะมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

5 สถานที่ เสี่ยงเสียตัว!!


เมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่น เชื่อได้เลยว่าทุกคน ต้องตกอยู่ใน ห้วงแห่งความรักกันบ้าง .. อยากมีหนุ่มสักคน ไม่ยากหรอก แค่น้องๆนู๋ๆ ทำให้เค้ารู้ว่าเราสนใจ เข้าไปทำความรู้จัก คุยโทรศัพท์กันบ้าง เพื่อเพิ่มความสนิทสนม แต่ถ้าคิดว่ายังไม่หนำใจ คงต้องมีการพบปะ สังสรรค์ หรือที่เรียกง่ายๆว่า การออกเดท ...


อ๊ะ เมื่อได้เดทกับชายหนุ่ม เป็นใครก็ต้อง ตื่นเต้น สาวๆต้องเตียมตัวรับมือ แล้วหละ จะได้เป็นการออกเดท อย่างแฮปปี้ยังไงเล้า..


ขั้นแรก แต่งตัวให้เข้ากับตัวเองให้มากที่สุด แต่อย่าโป๊นะจ๊ะมันเสี่ยงอันตราย และหนุ่มๆเค้าจะหาว่าเราเป็นพวกใจง่ายได้ และทางที่ดีน้องๆควรเป็นคนเลือกสถานที่เอง เพราะใครจะไปรู้ว่าใจจริงแล้วหนุ่มๆเค้าต้องการอะไร อาจหวังเผด็จศึกภายในวันเดียวเลยก็ได้ ... แต่หากฝ่ายชายเค้ายืนยันนอนยัน ว่าขอเป็นคนเลือกสถานที่เอง พี่จะแนะน้องๆให้จำขึ้นใจเลยว่า มี 5 สถานที่เสี่ยงต่อการเสียสาวมากที่ซู๊ดดด ... อยากรู้มาดูเลย ว่ามีที่ไหนบ้างนะ

1. โรงภาพยนตร์
แน่ะ สงสัยละสิว่าโรงภาพยนตร์เนี่ยนะ อันตรายตรงไหน คนก็เยอะ ทำไมถึงเป็นสถานที่เสี่ยงอันดับ 1 เลย เคยได้ยินไหมจ๊ะ ที่เค้าบอก "ที่ๆปลอดภัย คือที่ๆอันตรายที่สุด" คิดละสิ่ว่า โอ่ย ออกเดท ใครๆก็ต้องคิดอย่างแรกเลยคือไปดูหนังกัน แค่นี้เองกิจกรรมง่ายๆ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย อ๊ะ แต่เปล่าเลย มันไม่ใช่แค่นั่งดูหนังเฉยๆนิ ด้วยบรรยากาศในโรงหนังมันทั้งมืด และมีเบาะสูงๆกั้นระหว่างแถว แถมคนที่มาดูหนังก็หันหน้าสนใจจออยู่นั่นน่ะ ใครจะไปรู้ว่าหนุ่มข้างๆเรา อาจจะแปลงร่างเป็นปลาหมึก มือยั้วเยี้ยแอบมากอดจูบลูบคลำเราได้โดยไม่ทันตั้งตัว สาวไหนอ่อนหัดก็อาจจะปล่อยให้เค้าทำอย่างนั้น
วิธีรับมือ กับสถาณการณ์อย่างนี้ น้องต้องแสดงอาการปฏิเสธโดยทันที เช่นเอามือปัดออก ชักสีหน้าหงุดหงิดใส่ หรือโวยวายเสียงดัง ถ้าเค้าไม่บ้าหื่นเกินไปคงรู้ตัวว่าเราไม่ชอบ แต่ถ้ามันยังทำต่อไปก็ลุกเดินออกมาเลยดีกว่า เพราะเค้าคงไม่หวังดีกับเราแน่ๆ นี่แค่เดทแรกยังเป็นงี้ ขืนปล่อยเลยตามเลย มีหวัง...น้ำตาเช็ดหัวเข่า นอนร้องไห้กระซิกๆ


2. สวนสาธารณะ
แม้จะเป็นที่โล่งแจ้ง แต่ด้วยบรรยากาศดี๊ดี อาจทำให้อารมณ์พาเพลิน เผลอนัวเนียกันได้ ไม่รู้ตัว โฮ๊ะๆอย่าเชียวน้อง สังเกตให้ดี หากเค้าชวน เดินไปนั่งเล่นในที่ลับตาผู้คน มืดๆ เงียบๆแล้วล่ะก็ ไม่ต้องสืบเลยน้องเอ๋ย ตอนนั้นจะตะโกนร้องให้ใครช่วย คงยาก แถมยังอาจเสี่ยงโดนพวกมิจฉาชีพสอยไปทั้งคู่ ทีนี้ไม่โดนแค่คนเดียวแน่ .. อย่างที่เคย ลงเป็นข่าวมาแล้วน่ะค่ะ
ทางที่ดีการรับมือ กับสถานการณ์แบบนี้ ควรเลี่ยงขอตัวไปเข้าห้องน้ำ และแอบโทรบอกเพื่อนสนิทเรา ให้โทรมาหาเราใหม่ในตอนที่เราอยู่กับเค้า และแกล้งทำเป็นมีเรื่องสำคัญขอปลีกตัวกลับมาก่อนก็เท่านั้นแหละ


3. สถานที่เที่ยวกลางคืน
แน่นอนพี่ว่าน้องๆคงฉลาดพอไม่ไปนัดเดทกันในที่แบบนี้แน่นอน คงไม่ต้องสืบอิกแหละค่ะว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ขืนถ้าน้องหลงเชื่อไปเดทกับเค้า ในที่แบบนี้ เหมือนเอาตัวเองไปขึ้นเขียงให้เค้าเชือดชัดๆ ไหนจะผู้คนเยอะแยะมั่วสุม เหล้า เบียร์ ดื่มกันไปเคลิ้มกันไปเต้นกันไปลูบคลำกันไป..
โอ่ย...อันตรายสุดๆ ยิ่งน้องๆ ยังเด็กๆ กันอยู่นี่ ไม่รู้ลีมิตตัวเองมีหวัง เมาหลับปลิ้นไม่รู้เรื่อง โดนเค้าพาไปไหนต่อไหนขัดขืนไม่ได้อิก ทีนี้ไปกันใหญ่ เผลอๆอาจโดนรุมโทรมแบบตามหน้าหนังสือพิมพ์มาอิก แย่แน่ทีนี้
วิธีแก้สถานการณ์ ยิ่งถ้าเป็นสถานที่ที่เราไม่คุ้นเคยด้วยแล้วละก็ ให้โทรบอกที่บ้านไว้ หรือให้พาเพื่อนไปด้วย หรืออาจจะแอบให้เพื่อนไปซุ่มอยู่โต๊ะข้างๆ ช่วยดูพฤติกรรมว่าไว้ใจได้ไหม ถ้าเกิดหนุ่มนั่นทำตัวไม่เข้าท่าแล้วละก็ จะได้ช่วยเหลือดึงเรากลับบ้านได้ทันเวลา


4. โรงแรม

ไม่มีเหตุผลใดเลยนะ ที่หนุ่มๆเค้าจะพาเรา เข้าโรงแรม จะอ้างว่าพามาทานข้าว หรือไปพักผ่อนมันไม่ใช่เรื่องจ่ะ พี่ขอเตือนเลย ว่าอย่าไปเด็ดขาด ปฏิเสธไปเลยโดยไม่ต้องคิด ว่าไม่ เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นนี่ น้องสู้แรงผู้ชาย ไม่ไหวแน่ๆ ยิ่งสถานที่สวยๆบรรยากาศดีๆ ชวนให้น่าหลับนอนยิ่งไม่ได้เด็ดขาด ผิดมากๆ เลี่ยงได้ก็เลี่ยงเถอะจ้า และถ้าเดทแรก เค้าส่อพิรุธขนาดนี้ หนุ่มนี่คงไม่เหมาะที่น้องๆ จะมาเสียเวลาด้วยแน่ๆ เพราะถ้าขืนเลยตามเลยต่อไปมีหวัง นอกจากเสียเวลา อาจเสียตัวได้โดยง่ายนะจ๊ะ


5. บ้านของเค้า

หวาน...ดั่งลาบปากมาโปรด ... น้องๆอาจจะคิดว่ามันคงไม่มีอะไรน่าอันตราย แต่มันมีอะไรมากกว่าที่เราคิดนะ เพราะการที่ผู้หญิงยินยอมเข้าบ้านผู้ชายนั้น เท่ากับเราเข้าถ้ำเสือ ที่ๆเค้า ทำอะไรเราก็ได้ง่ายๆ สบายเลย เหมือนว่าเราเสนอตัวให้แก่เค้า ทั้งๆที่เราเองไม่ได้คิดแบบนั้น ยิ่งถ้าพลาดเข้าห้องนอนเค้าละก็ รายไหนรายนั้นเลยน้องเอ๋ย


หากพลาดพลั้งเสียสาวไปแล้ว ทั้งเสียใจ พูดอะไรไม่ได้เพราะเจ้าหนุ่มนั่น ก็อ้างได้ว่าเรามาเอง ทางที่ดีชวนมาบ้านเราดีกว่า อ๊ะ..แต่ต้องตอนที่มีคนอยู่บ้านเราด้วยนะ ไม่ใช่ชวนมาบ้านเรา แต่ไม่มีคนอยู่ นี่ก็อันตรายเหมือนกันจ้า ..

วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551




ประวัติย่อๆ : ชื่อ : บริทนีย์ ฌ็อง สเปียร์ส (Britney Jean Spears) ชื่อเล่น : บริท หรือ พิงค์กี้ (Brit or Pinkey)
วันเกิด : 2 ธันวาคม 2524
สถานที่เกิด : เมืองเคนท์วู้ด รัฐหลุยเซียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา
( Kentwood, Louisiana , USA)
ส่วนสูง : 5 ฟุต 4 นิ้ว หรือ 163 ซม.
สีนัยน์ตา : น้ำตาล
สีผมตามธรรมชาติ : สีบลอนด์
บิดาชื่อ : เจมี่ (Jamie) เป็นนักธุรกิจการก่อสร้าง
มารดาชื่อ : ลินน์ (Lynn) เป็นครูสอนในชั้นประถมศึกษาที่ 2
พี่ชายชื่อ : ไบรอัน (Bryan) เกิดปี พ. ศ. 2520
น้องสาวชื่อ : เจมี่ ลินน์ (Jamie Lynn) เกิดปี พ. ศ. 2534
ศิลปินในดวงใจ : มาดอนน่า และมาราย แครีย์ (
Madonna and Mariah Carey)
เพื่อนซี้ : ซาร่า มิแชล เกลล่าร์ (
Sarah Michelle Gellar)
เมื่อครั้นบริทนี่ย์ สเปียร์ ยังเป็นเด็ก เธอได้เข้าร่วมการแสดงละครเพลงและเป็นหนึ่งในคณะนักร้องในโบสถ์ โดยการสนับสนุนจากมารดาซึ่งเป็นผู้จัดการ เธอได้เข้าร่วมรับการคัดเลือกตัวแสดงที่รายการ “ คลับมิคกี้ เมาซ์” ( MickeyMouse Club ) ของ ช่องดิสนีย์ (Disney) ที่เมืองแอตแลนต้า (Atlanta) แต่บริทนีย์มีอายุเพียงแค่ 8 ขวบเท่านั้น ดังนั้น เธอยังเด็กเกินไปที่จะเข้าร่วมแสดง อย่างไรก็ตาม โปรดิวเซอร์ของทางดิสนีย์ได้เห็นแววทางการแสดงของเธอ จึงยื่นข้อเสนอส่งตัวเธอไปเรียนการแสดงเพิ่มเติม ในช่วงปิดเทอม 3 เดือน ใน ” ศูนย์การเต้นรำออฟ- บรอดเวย์” (Off-Broadway Dance Center) ซึ่งจัดการแสดงละครแบบทดลองในโรงละครเล็กๆ และเรียนที่ “ โรงเรียนสอนศิลปะการแสดงสำหรับมืออาชีพ” (Professional Performing Arts School) ที่เมืองนิวยอร์ค (New York City) หลังจากนั้น บริทนี่ย์ก็เริ่มมีงานโฆษณาทางทีวีและการแสดงละครที่โรงละครมากมาย จนกระทั่งเมื่อบริทนีย์มีอายุ 11 ปี เธอได้เข้าร่วมการแสดงที่คลับมิคกี้ เมาซ์ ( พ. ศ. 2536-2537)

หลังจากนั้น 2 - 3 ปี เธอเริ่มต้นชีวิตการเป็นนักร้อง และได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินในสังกัดของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่าง “ จิฟ รีคอร์ด” (Jive Records) โดยได้ร่วมงานกับโปรดิวเซอร์ชื่อดังอย่าง “ เอริค ฟอสเตอร์” (Eric Foster) ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ “ วิทนีย์ ฮูสตัน” (Whitney Houston) และ “ แม็คซ มาร์ติน” (Max Martin) ผู้ที่ทำงานเพลงให้แก่ “ แบ็คสตรีท บอยซ” (Backstreet Boys) ด้วยการเปิดตัวในอัลบั้มแรกที่ชื่อ “ วัน มอร ไทม” (One More Time) ในวันที่ 12 มกราคม พ. ศ. 2542 บริทนี่ย์ก็เป็นศิลปินแนวป็อปแดนซ์ซึ่งเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก โดยอัลบั้มนี้ขายได้ถึง 13 ล้านแผ่นทีเดียว อีกทั้งยังติดชาร์ตอันดับหนึ่งและรักษาอันดับคงที่อยู่เป็นเวลานานถึง 6 สัปดาห์ ซิงเกิ้ลท็อบเท็นของอัลบั้มนี้ คือ เพลง “ ยู ไดรฟ มี ( เครซี่)” You Drive Me (Crazy) และเพลง “ ฟอร์ม เดอะ บ็อตทอม ออฟ มาย โบรคเค็น ฮาร์ท” (From the Bottom of My Broken Heart)

บริทนีย์ได้ออกเดทกับจัสติน ทิมเบอร์เลค (
Justin Timberlake ) นักร้องชื่อดังตั้งแต่ พ. ศ. 2541 และทั้งสองได้เลิกลากันไปเมื่อ พ. ศ. 2545

อัลบั้มที่สองของเธอ คือ “ อูฟส์ !... อาย ดิด อิท อเกน” (Oops!...I Did It Again) ได้ออกสู่สาธารณชนในวันที่ 16 เดือนพฤษภาคม พ. ศ. 2543 อัลบั้มนี้ยังคงขึ้นชาร์ตอันดับหนึ่งและขายได้เกินล้านแผ่นในสัปดาห์แรก และเกินเก้าล้านแผ่นในเดือนกรกฎาคม พ. ศ. 2544 เหล่าซิงเกิ้ลฮอตของเธอ ได้แก่ เพลง “ อูฟส์ !... อาย ดิด อิท อเกน” และเพลง “ โดท เล็ท มี บี เดอะ ลาส ทู โนว” (Don't Let Me Be the Last to Know)

สำหรับอัลบั้มถัดไปของเธอที่ชื่อ “ บริทนีย์ ” ( Britney ) ได้ออกสู่ตลาดในวันที่ 6 พฤศจิกายน พ . ศ . 2544 บริทนีย์ได้ตั้งใจแสดงให้เห็นว่า เธอเป็นศิลปินที่เป็นเด็กสาวซึ่งโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และดูเหมือนจะตั้งใจบอกเป็นนัยว่า เธอไม่ใช่เด็กสาวไร้เดียงสาบริสุทธิ์ซะทีเดียว คราวนี้ อัลบั้มที่สามของเธอยังคงขึ้นติดอันดับหนึ่ง ถึงแม้ว่า ในช่วงนี้ เพลงต่างๆของเธอในอัลบั้มจะไม่ประสบความสำเร็จนัก อย่างเช่น เพลง “ แอม น็อท อะ เกิล น็อท เย็ท อะ วูเมิน” (I'm Not a Girl, Not Yet a Woman) และเพลง “ โอเว่อร์โพรเท็คทิด” (Overprotected) ซึ่งต่างพลาดไม่ติดชาร์ตท็อบเท็น

อัลบั้มที่สี่ของเธอ “ อิน เดอะ โซน” ( In The Zone ) ได้ออกมาในวันที่ 18 พฤศจิกายน พ. ศ. 2546 โดยร่วมร้องในเพลง “ มี อะเก็นสท เดอะ มิวสิค” ( Me Against The Music ) กับ มาดอนน่า (
Madonna ) ด้วย

ในปี พ . ศ . 2547 เพลง “ ท็อคสสิค” ( Toxic ) ของบริทนีย์ได้ออกสู่สายตาของพวกเรา ด้วยมิวสิควีดีโออันวาบหวิว และวิ่งขึ้นเป็นเพลงอันดับหนึ่งในประเทศอังกฤษ ตามมาด้วยความสำเร็จของการเผยแพร่มิวสิควีดีโอที่ชื่อ“ เอวริไทม”( Everytime )
ใน พ . ศ. 2547 บริทนีย์ได้จัดงานวิวาห์ขึ้นสองครั้ง ครั้งแรกในวันที่ 3 มกราคม เธอได้เข้าพิธีแต่งงานกับเพื่อนสมัยเด็กที่ชื่อ “ เจสัน อเล็กซานเดอร์” ( Alexander ) ในเมืองลาส เวกัส ( Las Vegas ) แค่เพียงสองวันต่อมา ทั้งสองก็ได้แยกทางกัน หลังจากนั้นเพียงไม่นาน เธอได้หมั้นหมายกับ “ เคววิน เฟเดอร์ลิน” ( Kevin Federline ) อดีตแดนเซอร์เก่าของเธอ ทั้งสองได้เข้าพิธีสมรสในวันที่ 18 กันยายน ท่ามกลางเหล่าญาติมิตรสหายเท่านั้น ในนครลอสแองเจลิส

อัลบั้มพิเศษที่ชื่อว่า “ เกรทเท็สท์ ฮิตส์ : มาย พรีโรเกทิฟ”

(Greatest Hits: My Prerogative) ได้ออกสู่ตลาดในวันที่ 9 พฤศจิกายน พ. ศ. 2547 อัลบั้มนี้ได้รวบรวมบรรดาเพลงสุดฮิตและ เพลงโบนัสที่เราไม่เคยได้ยินในอัลบั้มใดของเธอมาก่อน
http://www.biogs.com/famous/spearsbritney.html
http://www.imdb.com/name/nm0005453/bio

ผลงานอื่นๆ ของเธอ :
- ในปี พ. ศ. 2544 บริทนีย์ได้ตกลงทำสัญญากับทางเป็ปซี่ (Pepsi) ในการถ่ายโฆษณาทีวี โปรโมทน้ำอัดลมชนิดนี้ โดยโฆษณาชิ้นนี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ดซ ปี 2001 (2001 Academy Awards) เธอได้รับค่าตอบแทนจากเป็ปซี่ทั้งหมดมากกว่า 10 ล้านเหรียญดอลลาร์ หรือประมาณมากกว่า 300 กว่าล้านบาท

- ในช่วงที่เธอออกอัลบั้มที่สามของเธอ บริทนีย์ สเปียร์ส ได้แสดงภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอที่ชื่อว่า “ คร็อซโรดซ ” (Crossroads) ในพ . ศ . 2545 โดยนำแสดงร่วมกับ จัสติน ลอง ( Justin Long )

- บริทนีย์ได้ออกน้ำหอมของเธอเอง ยี่ห้อ “ คิวเรียส”’ (Curious) ในฤดูใบไม้ร่วง ปี พ. ศ.2547 ยี่ห้อน้ำหอมของเธอนั้นได้เป็นหนึ่งในบรรดาน้ำหอมที่ขายดีที่สุดในปีเดียวกัน

รางวัลที่เธอได้รับ ภายในประเทศสหรัฐอเมริกา :

รางวัลมิวสิค อวอร์ดซของชาวอเมริกัน (AMERICAN MUSIC AWARDS)
พ . ศ. 2543 ศิลปินหน้าใหม่ที่ดีเด่นที่สุด (Best New Artist)

รางวัลบิวบอร์ด อวอร์ดซ (BILLBOARD AWARDS)
พ . ศ. 2547 ซิงเกิ้ลแนวแดนซ์ที่ขายดีสุดฮอตแห่งปี ที่ชื่อว่า “ มี อะเก็นสท์ เดอะ
มิวสิค” ร่วมกับมาดอนน่า (Hot Dance Sales Single of the Year for
“Me Against the Music” collaboration with Madonna)
พ . ศ. 2543 ศิลปินที่มีอัลบั้มยอดเยี่ยมแห่งปี ที่ชื่อว่า “ “ อูฟส์ !... อาย ดิด อิท อเกน”
(Album Artist of the Year for “Oops!... I Did It Again”)
พ . ศ. 2542 ศิลปินหญิงยอดเยี่ยมแห่งปีและศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปี
(Female Artist of the Year and New Artist of the Year)

รางวัลแกรมมี่ อวอร์ดซ (GRAMMY AWARDS)
พ . ศ. 2548 แผ่นเสียงแนวแดนซ์ที่ดีเด่นที่สุด (Best Dance Recording)
http://www.britneyspears.com

วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

โยเกิร์ตรักษาแผล


ถ้าพูดถึงโยเกิร์ตหลายคนคงจะนึกถึงความอร่อย มีประโยชน์ หรือไม่ก็เรื่องความสวยความงาม ที่จะนำโยเกิร์ตไปผสมเป็นสูตรพอกหน้าของสาวๆหลายๆท่าน แต่ในวันนี้เรามาดูอีกประโยชน์นึงของโยเกิร์ตที่เราไม่ค่อยได้พบ คือ การนำโยเกิร์ตมาช่วยสมานแผล


ใครที่โดนรองเท้าคู่สวยกัด งับ งับ จนเป็นแผลที่แสนจะเจ็บกันบ้าง ถ้าเป็นแบบนี้ถ้าปล่อยไว้ต้องทนเจ็บอีกหลายวันแน่ๆกว่าจะหาย แต่คุณรู้ไหมว่าโยเกิร์ต ที่สุดแสนจะธรรมดา...เนี่ย สามารถที่แก้อาการรองเท้ากัดได้ด้วยหล่ะค่ะ


ส่วนผสม

โยเกิร์ต 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำส้มสายชู 1 ช้อนชา


เอาทั้งสองอย่างมาคนให้เข้ากันนะค่ะ และเอาไปทา บนแผลที่เราถูกรองเท้ากัดมานะค่ะ โดยแบคทีเรียตัวเป็นๆ ในโยเกิร์ตจะช่วยรักษาแผลให้หายเร็วขึ้น ส่วนน้ำส้มสายชูนั้นจะช่วยสมานรอยฟกช้ำ


ลองทำกันดูนะคะ แผลที่เราถูกรองเท้ากัดนี้จะได้ไปเจ็บนานหลายวัน

วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

นกค็อกคาทู (Cockatoo)

COCKATOO จัดอยู่ในหมู่นกแก้ว มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Psittacus novaehollandiae Taxanomy
Kingdom : Animalia
Phylum : Chordata
Sub-phylum : Vertebrata
Class : Aves
Sub-class : Neornithes
Super-order : Neognathae
Order : Psittaciformes
Family : Cacatuidae
Sub-family : Cacatuinae
Genus : ...
Species : ...
Sub-species : (Where applicable)
ถิ่นกำเนิด นกแก้วชนิดนี้อยู่ในออสเตรเลียเพียงแห่งเดียว กล่าวกันว่านกแก้วชนิดนี้บางตัวมีอายุยืนถึง 100ปี เช่นเดียวกับ นกแก้วพันธุ์ใหญ่ๆโดยทั่วไป
ลักษณะทั่วไป
นกแก้วที่เรียกชื่อว่า "คอคคาทู" โดยทั่วไปแล้วถือกันว่าเป็นนกเลี้ยงที่มีรูปร่างสวยงามมาก
ลำตัว จะมีสีขาวหรือสีเทาจนถึงสีเทาเข้ม
ขนศรีษะ ตั้งเป็นยอดสูงเรียงหลั่นกันไปคล้ายหงอน
จงอยปาก มีขนาดใหญ่และมีกำลังมากในการจิกแทะ
อุปนิสัย
นกแก้วชนิดนี้ไม่ชอบอยู่ตัวเดียวอย่างโดดเดี่ยว เป็นมิตรกับคนได้ดีเพราะมีนิสัยชอบคบหาสมาคม
นกแก้วชนิดนี้มีอารมณ์รุนแรง รักใครชอบใครก็ทุ่มเทให้จนสุดหัวจิตหัวใจ คอคคาทูจะมีความสุขมากเมื่อได้อยู่ใกล้เจ้าของ และชอบแสดงตนเป็นเจ้าของและเกิดการหึงหวงโดยไร้เหตุผล ใครมาทำผิดหูผิดตาก็จะแสดงกิริยาออกมาอย่างรุนแรงที่สุด ได้ชื่อว่าเป็น “นกขี้หึง”
นกแก้วคอคคาทู ชอบอาบน้ำ ฉะนั้นผู้เลี้ยงควรอาบน้ำให้นกทุกวัน เพื่อทำให้นกร่าเริงและมีขนสวยงาม
คอคคาทูชอบของเล่นที่มีส่วนประกอบที่เป็นกระดิ่ง โดยเฉพาะนกที่ถูกเลี้ยงตัวเดียว เพราะนกจะรู้สึกว่ากระดิ่งเป็นเพื่อนของมัน เนื่องจากกระดิ่งจะส่งเสียงดังทำให้มันไม่รู้สึกเหงาหรือรู้สึกว่ามันอยู่เพียงลำพพังกระจกก็เป็นของเล่นอีกชิ้นหนึ่งที่คอคคาทูชื่นชอบ เพราะมันจะมองเห็นตัวของมันเอง เปรียบเสมือนว่ามันมีเพื่อนอยู่กับมัน
นกชนิดนี้ร้องเสียงดังและเลียนตามคำได้น้อย จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีความมุ่งหมายในการเลี้ยงนกแก้วเพื่อฝึกให้พูดคุยกระซิบกระซาบ
การแบ่งประเภท Cockatoo
White cockatoo
Sulphur-crested cockatoo
Bloodstained cockatoo
Slender-billed cockatoo
Umbrella-crested cockatoo
Blue eyed cockatoo
Goffin’s cockatoo
Ducorp’s cockatoo
Pink cockatoo
Leadbeater’s cockatoo
Roseate cockatoo
Salmon-crested cockatoo
Black cockatoo
Gang-Gang cockatoo
Palm cockatoo


.................................................................................................................................
GREAT SULPHUR-CRESTED COCKATOO
ลักษณะทั่วไป
เกรท ซัลเฟอร์-เครสท์ ลำตัวเป็นสีขาว
บนศรีษะหรือหงอนนั้นมีสีเหลืองคล้ายสีกำมะถัน จึงมีชื่อเรียกตามลักษณะว่า"หงอนเหลือง"
บริเวณใต้คางและปีกก็มีสีเหลืองแต้มเป็นจุด ๆ
ขนาดของลำตัววัดจากจะงอยปาก จนถึง ปลายหางยาวประมาณ 20นิ้ว
อุปนิสัย
เป็นนกที่แข็งแรง กินอาหารเก่ง กล่าวกันว่านกแก้วชนิดนี้มีอายุยืนถึง138ปี
การผสมพันธุ์
การผสมพันธุ์ของนกแก้วชนิดนี้ ต้องปล่อยให้ผสมพันธุ์กันเองตามธรรมชาติอย่างอิสระ ไม่มีอะไร มารบกวน
อีกชนิดหนึ่งซึ่งมีลักษณะเหมือนนกแก้วชนิดนี้มาก คือ เลซเซ่อร์ ซัลเฟอร์-เครสท์ (Lesser-Sulphur-crested) จัดเป็นนกแก้วชนิดหงอนเหลืองเหมือนกันแต่มีขนาดเล็กกว่า โดยมีความยาว เพียง 12 นิ้วครึ่ง นิสัยดี ผสมพันธุ์กันได้ง่าย นกทั้งสองชนิดนี้มีความสามารถฝึกสอนให้พูดได้


.................................................................................................................................
BLOODSTAINED COCKATOO


ชื่ออื่นๆ - Little corella
สายพันธุ์ - เป็นนกแก้วชนิดใหม่ที่เกิดจากการเพาะพันธุ์ในสวนสัตว์ โดยแต่เดิมนั้นเป็นนกพื้น ๆ ที่มีอยู่ทั่วไปใน ออสเตรเลีย เป็นนกที่ชาวไร่ชาวนาในเขตนั้นเกลียด เพราะชอบลงไปกินพืชไร่ของชาวนาชาวสวน
ลักษณะทั่วไป
เป็นนกลำตัวสีขาว
ที่ใบหน้า หัวและคอมีสีชมพูม่วง
บริเวณรอบตามีสีฟ้า
รอบจมูกเหนือจะงอยปากมีสีชมพูและเหลือง
จะงอยสีเทาถึงขาว
หงอนสีขาว
บริเวณปีกและใต้หางมีสีเหลืองเหลือบเรื่อ
ขนาดประมาณ 17 นิ้ว
อุปนิสัย
เป็นนกน่ารัก และฝึกพูดพอใช้ได้
.................................................................................................................................
GANG GANG COCKATOO


ชื่ออื่นๆ - Red-crowned cockatoo, Red-headed cockatoo
สายพันธุ์ - เป็นนกแก้วชนิดใหม่อีกชนิดหนึ่งอีกชนิดหนึ่ง ที่ได้มาจากการเพาะผสมพันธุ์ในสวนธรรมชาติโวเบิน(Woburn) ซึ่งเป็นสวนธรรมชาติของอังกฤษ
ลักษณะทั่วไป
ลำตัวมีสีพื้นเป็นสีเทา ทั้งเทาอ่อนและเทาแก่หลายชนิด
หงอนมีสีแดงแต้มหลั่นกันไป
เหนืออกมีสีแดงสลับขาว
ลักษณะเพศผู้และเพศเมียสังเกตที่หงอน โดยนกเพศเมียหงอนเป็นสีเทา
ขนาดความยาวของนกโดยประมาณ 14 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 250 กรัม
อุปนิสัย
เป็นนกที่ร่าเริงแข็งแรง
เป็นมิตรคบกับคนได้ดี
ไม่เหมาะที่จะนำมาเลี้ยงเพื่อฝึกสอนให้พูด เพราะนกพวกนี้ชอบส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวอวดผู้อื่นตลอดเวลา
.................................................................................................................................
LEADBEATER’S COCKATOO


ชื่ออื่นๆ - Major Mitchell cockatoo
ลักษณะทั่วไป
เป็นนกแก้วที่มีลำตัวสีขาวสะอาด และมีผู้นิยมเลี้ยงมากชนิดหนึ่ง
ขนหงอนมีแถบสีเหลืองและแดง
บริเวณคอและใต้ปีก และส่วนใต้ของบริเวณอื่น ๆ มีสีม่วงอมชมพู
ขนาดความยาวของลำตัวประมาณ 14 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 350-400 กรัม
ตัวเมียและตัวผู้มีลักษณะเหมือนกันมาก
อุปนิสัย
สามารถฝึกสอนให้พูดได้เก่งและหลายคำกว่าคอคคาทูทุกชนิด
การผสมพันธุ์
Leadbeaters cockatoo จัดเป็นนกที่แข็งแรง สามารถผสมพันธุ์ได้ หากทำรังให้เป็นรูปกล่องลึกและใหญ่ ในที่ซึ่งกว้างขวางปราศจากสิ่งรบกวน
.................................................................................................................................
ROSEATE COCKATOO


ค้นหา : สุนัข แมว สุกร ม้า สัตว์เคี้ยวเอื้อง สัตว์ปีก สัตว์อื่นๆ พันธุ์ : นกคอคคาทู
น.ส. ทักษิณา จารุวัฒนานนท์
COCKATOO จัดอยู่ในหมู่นกแก้ว มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Psittacus novaehollandiae Taxanomy
Kingdom : Animalia
Phylum : Chordata
Sub-phylum : Vertebrata
Class : Aves
Sub-class : Neornithes
Super-order : Neognathae
Order : Psittaciformes
Family : Cacatuidae
Sub-family : Cacatuinae
Genus : ...
Species : ...
Sub-species : (Where applicable)
ถิ่นกำเนิด นกแก้วชนิดนี้อยู่ในออสเตรเลียเพียงแห่งเดียว กล่าวกันว่านกแก้วชนิดนี้บางตัวมีอายุยืนถึง 100ปี เช่นเดียวกับ นกแก้วพันธุ์ใหญ่ๆโดยทั่วไป
ลักษณะทั่วไป
นกแก้วที่เรียกชื่อว่า "คอคคาทู" โดยทั่วไปแล้วถือกันว่าเป็นนกเลี้ยงที่มีรูปร่างสวยงามมาก
ลำตัว จะมีสีขาวหรือสีเทาจนถึงสีเทาเข้ม
ขนศรีษะ ตั้งเป็นยอดสูงเรียงหลั่นกันไปคล้ายหงอน
จงอยปาก มีขนาดใหญ่และมีกำลังมากในการจิกแทะ
อุปนิสัย
นกแก้วชนิดนี้ไม่ชอบอยู่ตัวเดียวอย่างโดดเดี่ยว เป็นมิตรกับคนได้ดีเพราะมีนิสัยชอบคบหาสมาคม
นกแก้วชนิดนี้มีอารมณ์รุนแรง รักใครชอบใครก็ทุ่มเทให้จนสุดหัวจิตหัวใจ คอคคาทูจะมีความสุขมากเมื่อได้อยู่ใกล้เจ้าของ และชอบแสดงตนเป็นเจ้าของและเกิดการหึงหวงโดยไร้เหตุผล ใครมาทำผิดหูผิดตาก็จะแสดงกิริยาออกมาอย่างรุนแรงที่สุด ได้ชื่อว่าเป็น “นกขี้หึง”
นกแก้วคอคคาทู ชอบอาบน้ำ ฉะนั้นผู้เลี้ยงควรอาบน้ำให้นกทุกวัน เพื่อทำให้นกร่าเริงและมีขนสวยงาม
คอคคาทูชอบของเล่นที่มีส่วนประกอบที่เป็นกระดิ่ง โดยเฉพาะนกที่ถูกเลี้ยงตัวเดียว เพราะนกจะรู้สึกว่ากระดิ่งเป็นเพื่อนของมัน เนื่องจากกระดิ่งจะส่งเสียงดังทำให้มันไม่รู้สึกเหงาหรือรู้สึกว่ามันอยู่เพียงลำพพังกระจกก็เป็นของเล่นอีกชิ้นหนึ่งที่คอคคาทูชื่นชอบ เพราะมันจะมองเห็นตัวของมันเอง เปรียบเสมือนว่ามันมีเพื่อนอยู่กับมัน
นกชนิดนี้ร้องเสียงดังและเลียนตามคำได้น้อย จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีความมุ่งหมายในการเลี้ยงนกแก้วเพื่อฝึกให้พูดคุยกระซิบกระซาบ
การแบ่งประเภท Cockatoo
White cockatoo
Sulphur-crested cockatoo
Bloodstained cockatoo
Slender-billed cockatoo
Umbrella-crested cockatoo
Blue eyed cockatoo
Goffin’s cockatoo
Ducorp’s cockatoo
Pink cockatoo
Leadbeater’s cockatoo
Roseate cockatoo
Salmon-crested cockatoo
Black cockatoo
Gang-Gang cockatoo
Palm cockatoo
GREAT SULPHUR-CRESTED COCKATOO

ลักษณะทั่วไป
เกรท ซัลเฟอร์-เครสท์ ลำตัวเป็นสีขาว
บนศรีษะหรือหงอนนั้นมีสีเหลืองคล้ายสีกำมะถัน จึงมีชื่อเรียกตามลักษณะว่า"หงอนเหลือง"
บริเวณใต้คางและปีกก็มีสีเหลืองแต้มเป็นจุด ๆ
ขนาดของลำตัววัดจากจะงอยปาก จนถึง ปลายหางยาวประมาณ 20นิ้ว
อุปนิสัย
เป็นนกที่แข็งแรง กินอาหารเก่ง กล่าวกันว่านกแก้วชนิดนี้มีอายุยืนถึง138ปี
การผสมพันธุ์
การผสมพันธุ์ของนกแก้วชนิดนี้ ต้องปล่อยให้ผสมพันธุ์กันเองตามธรรมชาติอย่างอิสระ ไม่มีอะไร มารบกวน
อีกชนิดหนึ่งซึ่งมีลักษณะเหมือนนกแก้วชนิดนี้มาก คือ เลซเซ่อร์ ซัลเฟอร์-เครสท์ (Lesser-Sulphur-crested) จัดเป็นนกแก้วชนิดหงอนเหลืองเหมือนกันแต่มีขนาดเล็กกว่า โดยมีความยาว เพียง 12 นิ้วครึ่ง นิสัยดี ผสมพันธุ์กันได้ง่าย นกทั้งสองชนิดนี้มีความสามารถฝึกสอนให้พูดได้
BLOODSTAINED COCKATOO

ชื่ออื่นๆ - Little corella
สายพันธุ์ - เป็นนกแก้วชนิดใหม่ที่เกิดจากการเพาะพันธุ์ในสวนสัตว์ โดยแต่เดิมนั้นเป็นนกพื้น ๆ ที่มีอยู่ทั่วไปใน ออสเตรเลีย เป็นนกที่ชาวไร่ชาวนาในเขตนั้นเกลียด เพราะชอบลงไปกินพืชไร่ของชาวนาชาวสวน
ลักษณะทั่วไป
เป็นนกลำตัวสีขาว
ที่ใบหน้า หัวและคอมีสีชมพูม่วง
บริเวณรอบตามีสีฟ้า
รอบจมูกเหนือจะงอยปากมีสีชมพูและเหลือง
จะงอยสีเทาถึงขาว
หงอนสีขาว
บริเวณปีกและใต้หางมีสีเหลืองเหลือบเรื่อ
ขนาดประมาณ 17 นิ้ว
อุปนิสัย
เป็นนกน่ารัก และฝึกพูดพอใช้ได้
GANG GANG COCKATOO

ชื่ออื่นๆ - Red-crowned cockatoo, Red-headed cockatoo
สายพันธุ์ - เป็นนกแก้วชนิดใหม่อีกชนิดหนึ่งอีกชนิดหนึ่ง ที่ได้มาจากการเพาะผสมพันธุ์ในสวนธรรมชาติโวเบิน(Woburn) ซึ่งเป็นสวนธรรมชาติของอังกฤษ
ลักษณะทั่วไป
ลำตัวมีสีพื้นเป็นสีเทา ทั้งเทาอ่อนและเทาแก่หลายชนิด
หงอนมีสีแดงแต้มหลั่นกันไป
เหนืออกมีสีแดงสลับขาว
ลักษณะเพศผู้และเพศเมียสังเกตที่หงอน โดยนกเพศเมียหงอนเป็นสีเทา
ขนาดความยาวของนกโดยประมาณ 14 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 250 กรัม
อุปนิสัย
เป็นนกที่ร่าเริงแข็งแรง
เป็นมิตรคบกับคนได้ดี
ไม่เหมาะที่จะนำมาเลี้ยงเพื่อฝึกสอนให้พูด เพราะนกพวกนี้ชอบส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวอวดผู้อื่นตลอดเวลา
LEADBEATER’S COCKATOO

ชื่ออื่นๆ - Major Mitchell cockatoo
ลักษณะทั่วไป
เป็นนกแก้วที่มีลำตัวสีขาวสะอาด และมีผู้นิยมเลี้ยงมากชนิดหนึ่ง
ขนหงอนมีแถบสีเหลืองและแดง
บริเวณคอและใต้ปีก และส่วนใต้ของบริเวณอื่น ๆ มีสีม่วงอมชมพู
ขนาดความยาวของลำตัวประมาณ 14 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 350-400 กรัม
ตัวเมียและตัวผู้มีลักษณะเหมือนกันมาก
อุปนิสัย
สามารถฝึกสอนให้พูดได้เก่งและหลายคำกว่าคอคคาทูทุกชนิด
การผสมพันธุ์
Leadbeaters cockatoo จัดเป็นนกที่แข็งแรง สามารถผสมพันธุ์ได้ หากทำรังให้เป็นรูปกล่องลึกและใหญ่ ในที่ซึ่งกว้างขวางปราศจากสิ่งรบกวน
ROSEATE COCKATOO

ชื่ออื่นๆ - Rose-breasted cockatoo , Rose cockatoo , Galah cockatoo
ลักษณะทั่วไป
จัดเป็นนกแก้วคอคคาทู ประเภทที่มีผู้นิยมเลี้ยงกันอย่างกว้างขวางมากกว่าคอคคาทูทุกชนิด ลักษณะโดยทั่วไปสามารถเลี้ยงร่วมกับนกแก้วชนิดอื่นได้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเลี้ยงนกแก้วที่เริ่มเลี้ยงใหม่ ๆ
ทั้งตัวผู้และตัวเมียมีขนาดความยาวของลำตัวประมาณ 14 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 300-400 กรัม
ตัวผู้
ตอนบนของลำตัวจะมีส่วนที่เป็นสีเทาเหมือนบรอนซ์
บริเวณใต้หัวต่ำลงมาเป็นสีชมพูม่วง
ขนหงอนเป็นสีขาวเรียงเป็นแถวแต่งแต้มด้วยสีชมพูม่วง
นัยน์ตาสีดำสนิทเหมือนสีนิล
ตัวเมีย
ขนบริเวณหงอนจะเป็นสีม่วงออกชมพูเข้ม
นัยน์ตาของนกตัวเมียส่วนหนึ่งเป็นสีน้ำตาลแดง



การผสมพันธุ์
สามารถผสมพันธุ์ได้ง่ายตามธรรมชาติ





SALMON-CRESTED COCKATOO

ชื่ออื่นๆ - Moluccan cockatoo
ลักษณะทั่วไป
เป็นนกแก้วคอคคาทูที่มีลำตัวสีขาว เว้นแต่หงอนเท่านั้นที่เป็นชมพูออกเนื้อปลาสด
ลักษณะการสังเกตว่านกตัวผู้หรือตัวเมียนั้น สังเกตได้จากม่านตารอบนอก
ตัวผู้ : จะเป็นสีดำหรือสีเทาเกือบดำ
ตัวเมีย : จะเป็นสีน้ำตาล
ขนาดความยาวประมาณ 20 นิ้ว
อุปนิสัย
จัดเป็นนกแก้วที่มีนิสัยดี ว่านอนสอนง่าย
มีนิสัยชอบส่งเสียงร้องดังแสบแก้วหู
การผสมพันธุ์
ผสมพันธุ์ได้โดยวิธีกระตุ้นจากนกคู่อื่น





















วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

กล้วย

กล้วย เป็นพรรณไม้ล้มลุกในสกุล Musa มีหลายชนิด เช่น กล้วยน้ำว้า กล้วยน้ำไท กล้วยหอมทอง กล้วยหอมเขียว กล้วยไข่ กล้วยตานี กล้วยหักมุก กล้วยเล็บมือนาง กล้วยนิ้วมือนาง กล้วยส้ม กล้วยนาค กล้วยหิน กล้วยงาช้าง บางชนิดก็ออกหน่อแต่ว่าบางชนิดก็ไม่ออกหน่อ ใบแบนยาวใหญ่ ก้านใบตอนล่างเป็นกาบยาวหุ้มห่อซ้อนกันเป็นลำต้น ออกดอกที่ปลายลำต้นเป็น ปลี และมักยาวเป็นงวง มีลูกเป็นหวี ๆ รวมเรียกว่า เครือ พืชบางชนิดมีลำต้นคล้ายปาล์ม ออกใบเรียงกันเป็นแถวทำนองพัดคลี่ คล้ายใบกล้วย เช่น กล้วยพัด (Ravenala madagascariensis) ทว่าความจริงแล้วเป็นพืชในสกุลอื่น ที่มิใช่ทั้งปาล์มและกล้วย

PoR

PoR

i like tinker bell

i like tinker bell